วันพุธ

เรื่อง: ส่งต่อ: ในหลวงฯในสายตาของชาวต่างชาติ


ในหลวงฯในสายตาของชาวต่างชาติ
ไหน จะเขมร พม่า น้ำท่วม พายุ คลิป เสธหนั่น การประท้วง.. ที่สำคัญการโพสต์ข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามหน้าwall และในหลายเว็ปไซด์....พาทั้งผมและคนไทยเครียดกันเป็นแถบๆ ถ้าไม่ให้ตกเทรนคงต้องคุยกันแต่เรื่องพวกนี้ แต่วันนี้มีเรื่องเล่าให้หายเครียดกับบรรยากาศบ้านเมือง แต่คนทำให้หายเครียดกลับไม่ใช่คนไทย กลายเป็นคนต่างชาติไปซะนี่...แปลก ซึ้ง แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง...ถ้ามีฝีมือในการถ่ายทอดพอคงได้ เห็นน้ำตาซึมออกมา เพราะความปีติอีกครั้ง...ตามมาครับ
เมื่อวันก่อน พอดีมีโอกาสต้อนรับนักธุรกิจชาวอังกฤษหนึ่งท่าน ที่มาตามงานที่เขาสั่งผลิตเอาไว้..ตามภาษาคนทำธุรกิจเลยต้องรับขับสู้ให้ดี ที่สุดเพื่อโชว์ความเป็นคนไทยที่มีน้ำใจ....เรื่องมันเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร มื้อค่ำครับ....เราก็ทานกันไปตามปรกติมาอีตอนท้ายๆการสนทนาครับ...จำได้ว่า เราคุยกันเรื่องการลงทุนนี่แหละครับ...อยู่ดีๆฝรั่งตาน้ำข้าวก็พูดขึ้นมา ว่า..." คุณรู้ไหมทำไมคนต่างชาติหลายๆประเทศทำไมตัดสินใจมาลงทุนที่เมืองไทย ".. เราก็ตอบไปตามสไตล์คนอยากรู้ว่า ...ไม่รู้ เข้าทางฝรั่งเลยครับ เขาพูดขึ้นมาว่า " ส่วนมากแล้วจะประเมินกันว่าแรงงานประเภทงานฝีมือคนไทยมีศักยภาพสูงสุดในแถบ เอเซีย สูงกว่าญี่ปุ่นเสียอีก ตอนนี้จะพอมีใช้ได้ก็เวียดนาม แต่ไม่กระตือรือล้นเท่าที่ควรจึงยังห่าง ".... แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลหลักนะครับ เพราะสิ่งที่นักธุรกิจคนนี้พูดต่ออกมาคือ..... " แต่ปัจจัยหลักที่พวกเขา ตัดสินใจมาลงทุนที่เมืองไทยเป็นเพราะ "ในหลวงฯ.. ".. เริ่มอึ้งไปชั่วขณะเพราะงง..จึงถามกลับไปว่าทำไมจึงเป็นเพราะ ในหลวงฯ...มาฟังคำตอบชัดๆเลยครับ..
" ก็เพราะประเทศคุณมี king of king...( แปลไม่ถูกเพราะหัวใจมันพองโตขึ้นมาในทันใด)...พวกเราเป็นที่รู้กัน มาตลอดว่าประเทศไทย ไม่ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายแค่ไหน มันจะผ่านไปได้ทุกครั้ง แม้นกระทั้งความรุนแรงหรือความแตกแยกทางความคิดใดๆ หากเกิดขึ้น...เพียงในหลวงฯของคุณบอกให้ จบทุกอย่างจะจบ ด้วยความสงบสันติ"... แล้วผมก็ถามกลับไปว่าตอนนี้เรายังมีปัญหาอยู่เลย..เขา ตอบกลับทันทีว่า " เรื่องการจราจลเผาเมืองที่ผ่านมาเขาตามข่าวมาตลอดด้วยความเป็นห่วง แต่ที่แปลกใจก็คือครั้งนี้ในหลวงไม่ออกมา แต่นั้นทำให้เขารู้ว่า..ความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องความ"แตกแยก" แต่เป็นเรื่อง" การเมือง" ในหลวงฯจึงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว "......

... จบตอนนี้ผมอึ้ง ทึ่ง สมองสั่งการให้เห็นแสงสว่างขึ้นมาทันทีว่า..จริงด้วยเราหลงทางหรือเปล่าที่ คิดว่าเราแตกความสามัคคี จริงๆแล้วเป็นเรื่องการเมือง ของคนเลวๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น....คิดได้เท่านั้นทุกอย่างก็หยุดลง เพราะคำว่า"ในหลวง " ที่มีคุณูปการมากมายที่มีต่อคนไทยจน คนไทยอย่างเราเองคาดไม่ถึง นึกไม่ถึงว่าคนต่างชาติมาลงทุนบ้านเราเพราะพระบารมีของพระองค์...ผมกับคุณ พ่อเริ่มออกอาการซึมเพราะมันรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกเวลานั้น..... ทุกอย่างแห่งความซาบซึ้งน่าจะจบลงตรงนั้นแต่แล้ว..น้ำตามันซึมออกมาเองอีก ครั้ง...เมื่อตอนคนมาเก็บเงินค่าอาหาร...
ในตอนที่เอาเงินส่งให้พนักงาน...ฝรั่งคนเดิมพูดขึ้นมาอีกว่า....
"คน ไทยนี่โชคดีจริงๆนะ จะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร มีในหลวงฯคอยติดตามเฝ้าดูอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา "....ผมกับพ่อหันไปมอง คราวนี้พ่อผมถามเองเลยว่า..คุณรู้ได้อย่างไร เขาตอบกลับทันทีเลยว่า.... " ก็ผมเห็นธนบัตรไทยมีรูปในหลวงฯของพวกคุณอยู่ ทุกๆใบแม้นกระทั่งในเหรียญที่มีค่าน้อยที่สุดถึงมีค่ามากที่สุดในธนบัตร เห็นเป็นอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว ดังนั้นเวลาคนไทยไปไหน ในหลวงฯจะอยู่กับคนไทยตลอดเวลา ไม่เคยห่างกัน ผมยังสงสัยเลยว่า
ทำไมรัฐบาลคุณไม่พิมพ์คำว่า.. " เรารักในหลวง" ลงไปในธนบัตร..".. ทั้งผมทั้งพ่อน้ำตากลั้นไม่ไหวจริงๆครับ มันซึมออกมาแบบไม่อายเลย น้ำลายมันก็กลืนไม่เข้าเวลานั้น..... "เท่ห์" มากครับที่เกิดเป็นคนไทย หัวใจมันพองโต จนรู้สึกว่าตายกี่ชาติต่อกี่ชาติ ขอให้ได้เกิดเป็นคนไทยทีเถิด....
ส่งแขกเสร็จกลับบ้านกับพ่อสอง คน..ตลอดทางไม่พูดกันซักคำ ต่างคนต่างเงียบ ผมก็ได้แต่นั่งคิดถึงคำพูดไอ้ฝรั่งคนนี้มาตลอดทาง มันเป็นความสุขที่ได้รับแบบคาดไม่ถึงจริงๆครับ ....พอถึงบ้านจอดรถให้พ่อลงที่หน้าบ้านเห็นแม่มายืนรออยู่...พอพ่อลงรถคำแรก ที่พ่อพุดกับแม่คืด..ถามลูกมันดูซิว่า แกรรี่เค้าพูดถึงในหลวงว่ายังงัย.....จบครับ เป็นอันว่าตลอดทางที่กลับบ้านพ่อผมคิดถึงแต่เรื่องในหลวงฯแน่นอน.....
เรื่อง ทั้งหมดที่เล่าคงอธิบายความรู้สึกที่อยากจะถ่ายทอดทั้งหมดไม่ได้ แต่อยากแบ่งปันครับ....แบ่งปันให้พวกเราเก็บเรื่องดีๆนี่ไว้ในความทรงจำ เพื่อแบ่งปันกันต่อจากรุ่นสู่รุ่น...ไม่น่าเชื่อนะครับว่า คนอื่นมองเห็นเราชัดเจนกว่าตัวเราที่เป็นคนไทยซะอีก...คำว่า เป็นเรื่อง" การเมือง" ไม่ใช่เรื่องความ" แตกแยก".... อาจเป็นคำตอบให้คนไทยกลับมาคิดทบทวนกันอีก ครั้งว่า..เราแตกแยกกันจริงหรือ..เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่ สุด จนคนทั้งโลกยังอิจฉาแต่เราบางคนกลับมองไม่เห็น......
เพิ่งรู้ และสัมผัสกับคำว่า หัวใจพองโต...มันคับฟ้าคับแผ่นดิน..จริงๆนะครับ..ที่สำคัญคือ..การที่รู้สึก แบบนี้ได้เป็นเพราะ..ผมเป็นคนไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่สุดเป็น "พ่อของแผ่นดิน".. พระองค์ฯต้องอยู่เป็นมิ่งขวัญให้คนไทยทั้งแผ่นดินตลอดไป ....จริงไหมครับ..????
 ขอบคุณเพื่อนที่แสนดีที่ส่งเมล์มาให้ และจะกระจายต่อๆให้ทุกคนที่อ่านรู้ว่าเรารักในหลวง
http://kreathapat.blogspot.com