เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาหารที่ผ่านไมโครเวฟ และเครื่องดื่มน้ำอัดลม
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน (คัดจากบันทึกรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ วันที่ 25 มิถุนายน 2553)
1. สนธิ: ตู้ไมโครเวฟ เอาภาพมาให้ดูนะครับ ไมโครเวฟนี่นะครับ ภาพทางซ้าย ไมโครเวฟ วอเตอร์ ก็คือเอาน้ำมาอุ่นไมโครเวฟให้ร้อน ทางซ้าย แล้วปล่อยให้เย็น แล้วเอาใบไม้ใส่เข้าไป ทางขวานี่ก็คือน้ำเปล่า ไม่ใช่น้ำไมโครเวฟ แต่เอามาต้ม ต้มให้ร้อนแล้วปล่อยให้เย็น แล้วก็ใส่ เปิดต่อนะครับ แล้วเอามาใส่กระถาง จะเห็นว่ากระถางที่เขียนไมโครเวฟวอเตอร์ ที่อยู่ทางซ้ายมือของท่านผู้ชม คือรดด้วยน้ำไมโครเวฟ ที่เข้าผ่านกระบวนการอุ่นให้ร้อนแล้วปล่อยให้เย็นด้วยไมโครเวฟ ทางขวานี่คือน้ำที่ต้มให้ร้อนแล้วปล่อยให้เย็น แล้วเอามาเท นี่คือวันแรกนะครับ รูปต่อไป วันที่ 3 เห็นไหมครับ ต่อไปวันที่ 5 เห็นหรือยังครับ จะเห็นได้ชัดว่าใบไม้ของกระถางที่ใช้น้ำที่ทำจากไมโครเวฟ ที่อุ่นจากไมโครเวฟ เริ่มเหี่ยวแล้ว ในขณะที่ทางขวายังสดใสอยู่ ต่อไปครับ วันที่ 7 หมดเลย
2. สนธิ: เกลี้ยงเลย ต่อไปวันที่ 9 เห็นไหมครับ ไม่มีเหลือเลย เหลือแต่ตอ
3. สนธิ: คือฤทธิ์ของไมโครเวฟนี่ก็คือ เทคโนโลยีที่ทำให้ทุกอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าความรวดเร็วมันแฝงไปด้วยอันตรายที่มีต่อลูก ให้คุณแอ้มอธิบายให้ฟังก็แล้วกันว่าผลของไมโครเวฟมันมีผลยังไงบ้างต่อร่างกาย
4. สโรชา: เขาบอกว่าไมโครเวฟมันไปทำปฏิกิริยากับอะตอมในสารต่างๆ พวกอาหารทั้งหลายแหล่ ที่เราเอาเข้าไมโครเวฟ ประการแรกเลยมันจะทำให้เซลล์สมองผิดปกติ เซลล์สมองผิดปกติเพราะรับไม่ได้ ทานไปเรื่อยๆ มันจะทำลายเซลล์สมอง
5. สโรชา: ประการที่ 2 ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายอาหารได้ตามปกติต่อไป ทานเข้าไปมากๆ มันจะทำให้กระบวนการเมธาบอลิซึ่มผิดปกติ กระบวนการเผาผลาญอาหารผิดปกติ
6. สโรชา: การผลิตฮอร์โมนเพศชาย การผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ก็จะผิดปกติตามไปด้วย นอกจากนี้แล้วมันจะทิ้งพวกสารต่างๆ ในร่างกาย พวกของขยะทั้งหลายแหล่ มันจะสะสม
7. สโรชา: สารตกค้าง สะสมไปเรื่อยๆ วิตามินต่างๆ ที่เราทานเข้าไป ถ้าเราทานไมโครเวฟมากๆ อาหารที่ผ่านไมโครเวฟมากๆ ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายวิตามินเหล่านี้นำไปใช้ได้เป็นปกติ เรื่องของมะเร็ง เขาบอกว่า สารที่ก่อให้เกิดมะเร็งจะมาจากการทำ ทานอาหารไมโครเวฟมากๆ สารเหล่านี้จะไปสะสมแล้วทำให้เกิดเนื้องอก เนื้องอกที่ว่าจะเกิดขึ้นในลำไส้และกระเพาะอาหาร และก็ทำให้สมาธิสั้น ทำให้ความจำไม่ดี ทำให้เป็นคนอารมณ์ผิดปกติ แล้วก็เป็นคนที่ไม่ฉลาดเฉลียวเท่าที่ควร คือสมอง เขาบอกว่าการยิงอิเล็กตรอนในสมองจะทำให้ผิดปกติไป เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นผลต่อการทานอาหารที่ผ่านไมโครเวฟมากๆ ทานเข้าไปจะไปสะสม
8. สนธิ: ท่านผู้ชม ผมอายุมากแล้วอีกไม่กี่ปีก็ตาย แต่ผมเป็นห่วงลูกหลานเรา อย่าขี้เกียจ ทุกวันนี้อาหารอะไรผมจะหลีกเลี่ยงไมโครเวฟหมด ถ้าผมต้องการอุ่นน้ำแกง หรือถ้าผมต้องการกินบะหมี่ผมจะใช้น้ำแล้วต้ม อาหารถ้าผมอุ่นนะครับ ผมถ้าจำเป็นต้องผัดใหม่ ผมก็จะขึ้นกระทะแล้วก็คลุกผัดใหม่ทันทีเลย แต่จะไม่ทำเข้าไมโครเวฟอุ่นให้ร้อน ในขณะเดียวกันที่บ้านควรจะขยันหน่อย อย่าไปขี้เกียจ เหนื่อยนิดไม่เป็นอะไรแต่เพื่อลูกหลานเรา อาหารอะไรก็ตามถ้าจะทำให้ร้อน ถ้าไม่ใช้เตาก็ใช้ซึ้งที่นึ่งเอา คุณค่าอาหารยังอยู่แล้วจะไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้นเลย ผมไม่ได้ทานอาหารไมโครเวฟมานานแล้วนะครับ แล้วผมหลีกเลี่ยง เพราะฉะนั้นแล้วนะครับผมอยากให้เรื่องนี้ ผมไม่ได้ต่อต้านไม่โครเวฟ แต่ผมคิดว่าความสะดวกสบายนั้นบางทีมันแลกด้วยอันตราย ซึ่งผู้ผลิตไมโครเวฟไม่ยอมเล่าให้เราฟัง
9. สโรชา: เขาบอกสิ่งที่เกิดขึ้นถี่ที่สุดคืออะไรรู้ไหมคะ ไม่ใช่การอุ่นอาหารซักเท่าไหร่นะค่ะ แต่อยากชงกาแฟซักถ้วยหนึ่ง น้ำร้อนใส่แก้วยัดใส่ไมโครเวฟ 1 นาที ออกมาเรียบร้อยสามารถชงกาแฟได้ตามปกติ เขาบอกไอ้ตัวนี้เป็นภัยร้ายแรงไปแล้ว เพราะว่าเราทานทุกวันๆแล้ววันละหลายครั้งด้วย น่ากลัวนะ
10. จินดารัตน์: เอาเรื่องเครื่องดื่มบ้าง น้ำเปล่า ดื่มน้ำเปล่าไหมคะปกติ ดื่มโค้กไหมคะ
11. จินดารัตน์: ถ้าอย่างนั้นฟังทางนี้ค่ะ แล้วกลับไปเลือกว่าจะให้ลูกให้หลานดื่มน้ำเปล่าหรือว่าดื่มโค้ก เขาบอกว่ามีงานวิจัยมาว่า 100 คน ที่ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยทำให้ 80 คน ลดอาการปวดหลังและปวดข้อ คนที่ดื่มน้ำวันละ 5 แก้วจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ถึง 45 % มะเร็งเต้านมอีก 79 % กระเพาะอาหาร ปัสสาวะก็ได้อีก 50 % แล้วเขาบอกว่ามาดูคนดื่มโค้กกันบ้าง คนดื่มโค้กเคยลองไหมคะคุณผู้ชม ห้องน้ำตามร่องจะมีคราบเชื้อราสีดำๆเอาน้ำโค้กเทลงไปทิ้งไว้ซักชั่วโมงหนึ่ง กลับมาดูอีกทีมันจะขาวสะอาด เขาบอกให้เอาทีโบนสเต็กแช่เอาไว้ในโค้กประมาณซัก 2-3 วัน จะไม่เหลือเนื้อเลย ไม่เหลืออะไรเลย เขาบอกว่าถ้าต้องการล้างคราบไขมันจากเสื้อผ้าให้ใช้โค้ก 1 กระป๋องผสมกับผงซักฟอกในปริมาณที่จะใส่ในเครื่องซักผ้าแล้วซักตามปกติ คราบไขมันหายเกลี้ยง เสร็จหลังจากนั้นเขาบอกว่าแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือขาวๆแล้วเอาน้ำล้างมันไม่ออก เอาโค้กเทราดลงไปมันจะกัดออกหมดเลย เขาบอกเวลารถขนย้ายโค้กที่เมืองนอก รถบรรทุกใหญ่ จะติดป้ายไว้ว่า มีวัตถุที่มีกรดกัดกร่อนได้ เป็นอันตราย
12. สนธิ: รถทางหลวงที่อเมริกา ท้ายรถจะมีโค้ก 2 ลัง เพื่อเวลามีอุบัติเหตุแล้วมีเลือดบนถนนเขาจะเอาโค้กราด มันจะกัดไล่เลือดออกไป
13. จินดารัตน์: เคยกินไก่ต้มโคล้งไหมคุณแอ้ม เขาเอาไก่ไปต้มใส่น้ำโค้ก แป๊บเดียว เอามากิน กระดูกนุ่มเลย นุ่มทั้งตัว
14. สนธิ: ฟังเสร็จแล้วท่านผู้ชมครับเลือกเอาระหว่างน้ำ โค้ก แป๊บซี่ ประหยัดเงิน พอเพียง สุขภาพดี ทำไมต้องเอาเงินให้ฝรั่ง ทนไม่ไหวก็กินน้ำผลไม้ก็ยังดีกว่ากินน้ำโค้กน้ำแป๊บซี่
15. จินดารัตน์: ที่สำคัญคือ ประหยัดชีวิตด้วย
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะครับ
http://kreathapat.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น