พบกันอีกครั้งตรับ ความเครียดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาสำหรับชาวชุมชนนี้อาทิเช่นเกิดจากหัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชา กับเพื่อนร่วมงานหรือกับลูกน้องที่ทำอะไรไม่ได้ดังใจที่เราต้องการ(อันนี้หัวหน้าต้องตรึกตรองก่อนจะดุด่าว่าลูกน้องนะคร้บ เพราะลูกน้องนี่แหละเราจึงมาถึงวันนี้ได้ เขาทำงานแทนเรานะครับถ้าหากไม่มีเขาท่านก็ต้องทำด้วยตัวท่านเอง เมื่อท่านทำไม่ดีท่านจงด่าตัวท่านเองก็แล้วกัน)งาดนี้ทำไมมันเครียดจังเลย นี่ก็จะสิ้นเดือนแล้วบางที่ก็รับเงินเดือนกันแล้ว บางที่ก็เตรียมรับตอนสิ้นเดือน มีความสุขกับการรับเงินที่ตนเองทำมา (ไม่ได้ไปโกงเขามา)หลังจากนั้นก็ทำงานกันต่อ เงินเดือนที่ได้รับก็ขอให้จัดสรรอย่างถูกวิธีนะครับ การพนันชุมชนนี้ไม่ห้ามครับ นานาจิตตัง แต่ขอร้องให้เล่นพอหอมปากหอมคอก็พอครับ เพราะช่วงนี้เงินหนึ่งร้อยบาทจ่ายค่าข้าวแกงได้สองมื้อเอง แต่วันหนึ่งทานสามมื้อครับ อย่างน้อยก็หนึ่งร้อยห้าสิบครับ ถ้าหากวางแผนไม่ดีเราจะมีแต่เรื่องปวดหัว และไม่มีความสุขกับการทำงานครับ และวันนี้ก็ได้นำเอาบทความจากเมล์ที่พี่ๆส่งมาให้ แต่ต้นทางจริงๆไม่อาจทราบได้ ดังนั้นในที่นี้จึงกราบขออภัยเจ้าของบทความนี้ดว้ยที่เอาบทความของท่านมาเผยแพร่โดยพละการ แต่บทความของท่านมีประโยชน์ต่อชาวชุมชนนี้จึงขอเอามาให้สมาชิกทุกๆท่านได้อ่านเพื่อปรับปรุงปรับตัวให้เข้ากัน เพื่อที่จะได้ลดจำนวนคนจะเป็นโรคประสาทในอนาคตลงครับ ฉะนั้นจึงขอให้ชาวชุมชนนี้ปร้บตัวหรือพยายามปรับนะครับ ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะครับ
หนึ่งในสาเหตุของความเครียดในที่ทำงาน คือ การที่คนหลาย หลายวัยหลายความคิด ต้องมาทำงานร่วมกัน ความ แตกต่าง ระหว่างเลขวัยที่สัมพันธ์กับเลขไมล์ของประสบการณ์ มักนำมา ซึ่งความไม่เข้าใจกัน..จนก่อตัวเป็นความขัดแย้งในที่สุด บางทีความแตกต่าง คือ กุญแจแห่งความสำเร็จ เพียงขอเปิด ใจทำความรู้จักคนแต่ละรุ่นให้ลึกซึ้งก็จะได้พบโลกใบใหม่ที่งดงามหลากหลาย และหากเลือกที่จะสื่อสารได้อย่างถูกช่องถูกกลุ่ม ก็อาจจะได้อะไรใหม่ ๆ คาดไม่ถึง ใครเป็นใครในที่ทำงาน เราจะแบ่งรุ่นของคนทำงานในที่ทำงานให้ชัด ๆ ก่อน โดย จำแนกจากช่วงปีเกิด ซึ่งจะสัมพันธ์กับประสบการณ์ในช่วงเติบโต ทำให้เห็นยุคสมัยที่หล่อหลอมความคิดของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น
กลุ่มลายคราม : คนที่เกิดก่อนปี 2498
ลายคราม...ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษา หรือ เป็นพนักงานวัยใกล้เกษียณ คนกลุ่มนี้จะมีผู้คนนับหน้าถือตามากมาย อันเนื่องมาจากประสบการณ์การทำงานอันยาวนานของพวก เขานั่นเอง คนกลุ่มนี้จะเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะยุติ จึงเติบโตมาท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่มีทรัพยากรที่จำกัด ทำให้รู้จักคุณค่าของเงิน มักมีคุณลักษณะที่มั่นคงเชื่อใจได้ สู้งานหนัก ใช้จ่ายอย่างรู้คิด และภักดีต่อองค์กรสูง
กลุ่ม Baby Boom : คนที่เกิดช่วงปี 2499 – 2507
หลังสงครามยุติ ประเทศเข้าสู่ความสงบ การรณณรงค์คุมกำเนิด ยังไม่แพร่หลาย จึงเกิดพลเมืองตัวน้อย ๆ ขึ้นมากมาย Baby Boom เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและแข่งขันกับคนวัยเดียวกันเพื่อให้ได้งาน ยิ่งเมื่อประเทศกำลังพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่ยุคความเป็นอุตสาหกรรม Baby Boom ก็ยิ่งจำเป็นต้องทำ งานหนักมากขึ้น เต็มเหยียดวันละ 8 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์ ลูกจ้าง Baby Boom มักเคยชินต่อการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้นายจ้างยอมรับในศักยภาพ การจะก้าวไปสู่ตำแหน่งใหญ่นั้น ต้องใช้เวลาและแรงผลักดันอย่างสูง
กลุ่ม Generation–X : คนที่เกิดช่วงปี 2508 – 2523
Generation–X ลืมตาดูโลกในช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่งยานอวกาศออกไปนอกโลกได้สำเร็จ ของเล่นสุดฮิตของเด็กรุ่นจึงไม่ใช่ม้าโยก หรือตุ๊กตาหมีอีกต่อไป แต่เป็นวิดีโอเกม เกมกด และ Walkman พวกเขาเติบโตมาในยุครอยต่อของ Analog กับ Digital อยู่ท่ามกลางเทคโนโลยีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ทว่าที่สังคมเปลี่ยนแปลงในทางวัตถุนี้ กลับทำให้สถาบันครอบครัวสั่นคลอน ความภักดีต่อองค์กรของคนรุ่นนี้จึงคลายลงมาก นำมาสู่การลาออก และเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ไม่แปลกที่ชาว Baby Boom ผู้ไม่เคยเกี่ยงที่จะทำโอทีจนดึกดื่น จะอึ้งที่ชาว Generation–X ปฏิเสธการทำงานล่วงเวลาหรือลาออกไปหางานใหม่หน้าตาเฉยหากไม่พอใจ ทั้งนี้เพราะ Generation–X เชื่อว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต
กลุ่ม Millennium : คนที่เกิดปี 2524 เป็นต้นมา
Millennium คือ กลุ่มคนทำงานหน้าใหม่ไฟแรง แต่ยังอ่อนต่อประสบการณ์ บางคนอาจยังเรียนไม่จบเสียด้วยซ้ำหรือบางคนมีแผนที่จะเรียนต่อ ชาว Millennium โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงระบบการศึกษาที่เริ่ม ให้ความสำคัญกับการคิดมากกว่าการท่องจำ ชาว Millennium จะมีพ่อแม่ที่มีความรู้สูง จึงให้การสนับสนุน ให้ Millennium ได้เสริมทักษะด้านต่าง ๆ ตั้งแต่เด็ก ฉะนั้น Millennium จึงชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และสนุกกับการทำงานเป็นทีม ไม่ชอบอยู่ในกรอบ และไม่ชอบเงื่อนไข ในขณะนี้ ชาว Generation-X เปลี่ยนงานครั้งที่ 12 เพื่อ เป็นผู้บริหารระดับสูงกินเงินเดือนเรือนแสน แต่ชาว Millennium จะลาออกไปเริ่มธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเอง
สลายช่องว่างสร้างความเข้าใจ
เมื่อเข้าใจอย่างท่องแท้แล้วว่า ใครมีค่านิยมในชีวิตอย่างไร ใคร ๆ ก็สามารถสร้างสะพานข้ามช่องว่าง เพื่อข้ามไปหากันได้สูตรสร้างสะพานข้ามช่องว่าระหว่างวัยมีอยู่ 3 ขั้นตอน
1. เข้าใจถึงความแตกต่าง ยอมรับว่าคนเราถูกหล่อหลอมมา ไม่เหมือนกัน คนที่มีความเชื่อหรือทัศนคติต่อชีวิตไม่เหมือนคุณเขาไม่ใช่คนไม่ดีเสมอไป 2. ชื่นชมจุดดี แทนที่จะต่อต้าน ให้เราลองมองหาจุดเด่นของ คนในแต่ละกลุ่มให้พบ
3. บริหารความแตกต่าง เปลี่ยนวิธีการสื่อสารให้เข้าถึงคนแต่ ละกลุ่มที่เราต้องทำงานด้วย
ทำงานกับกลุ่มลายคราม จงให้เกียรติและให้ความเคารพอย่างสูงต่อพวกเขา เมื่อคุณให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะให้เกียรติคุณ แล้วถ้าบังเอิญคุณมี ตำแหน่งสูงกว่าพวกเขา จงแสดงความชื่นชมต่อเขาในด้านการ เป็นเสาหลักขององค์การ และจงรับฟังเมื่อพวกเขาถ่ายทอดประสบการณ์ในอดีต การต่อสู้ ความพากเพียรในการทำงานจน ผ่านพ้นความยากลำบากมาได้ เพราะสิ่งนั้นคือ สิ่งที่คนรุ่นหลัง ไม่มี และไม่รู้จัก อย่ามองว่า..กลุ่มลายครามคือ หมาล่าเนื้อ ไม่มีที่ไป แต่การที่พวกเขาทำงานอยู่จนถึงวัยเกษียณนั้น เป็นเพราะพวกเขาเชื่อในคุณค่าของความมั่นคงและถือความซื่อสัตย์เป็นที่สุด
ทำงานกับกลุ่ม Baby Boom จงแสดงความนับถือ รับฟัง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของ Baby Boom แล้วพยายามปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าคุณจะ เก่งกาจแค่ไหน หรือคุณจะประสบความสำเร็จเพียงใจ คุณก็ยังต้องเรียนรู้อยู่เสมอ อย่าแสดงออกว่าการทำงานหนัก คือ การเอาเปรียบ เพราะ Baby Boom ให้ความสำคัญต่อหลักการ ทำงาน ยึดถือวัฒนธรรมองค์การ และเห็นคุณค่าต่อการทำงาน อย่างทุ่มเท หากต้องทำงานในองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนาน ซึ่งบริหารงานโดย Baby Boom ควรพยายามเรียนรู้ วัฒนธรรมองค์กรเสียก่อนว่ามีการเจริญเติบโตมาอย่างไร ก่อนที่จะเสนอความคิดริเริ่มเพื่อการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แก่ Baby Boom ทำงานกับกลุ่ม Generation–X ต้องพูดให้กระชับ ชัดเจนและไม่อ้อมค้อม เพราะ Generation–X ชอบความตรงไปตรงมา คุณสามารถใช้ Email กลับคนกลุ่มนี้ได้ หากคุณสามารถสื่อสารได้ใจความและ ตรงเป้าหมาย หากเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ควรพูดต่อหน้า เพราะ Generation–X ไม่ชอบถูกบงการ ผู้ใหญ่แค่ให้ นโยบายกว้าง ๆ เปิดโอกาสให้เขาได้แก้ปัญหาเองจะดีที่สุดส่วน Baby Boom ควรลดความคาดหวังต่อ Generation–X ในการทำงานหนักอย่างหนักโดยไม่มีวันหยุด หรือก้าวไปอย่างช้า ๆ อย่างรุ่นตน เพราะ Generation–X ต้องการชีวิตที่สมดุลไม่ชอบการอยู่ติดที่
ทำงานกับกลุ่ม Millennium ลองท้าทายพวกเขาด้วยภารกิจใหม่ ๆ Millennium จะชอบความเป็นคนสำคัญ การเพิ่มความรับผิดชอบ เสมือนการให้คำชม จงเปิดโอกาสให้ Millennium ได้แสดงความคิดเห็นของเขา เห็นพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในทีม ผู้ใหญ่ที่ยอมรับความคิดเขา ก็จะได้รับการยอมรับจากพวกเขาเช่นกัน Millennium ชอบให้คุณแสดงออกต่อสิ่งที่พวกเขาทำทุกขณะจิต เพราะความรู้สึกและความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน มีผลต่อพวกเขามาก แค่เข้าใจทุกอย่างก็ลงตัว
http://kreathapat.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น